กฟก. จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการสะสางข้อมูลทะเบียนหนี้เกษตรกร ในเขตพื้นที่ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

วันที่ 22 เมษายน 2568 นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) มอบหมายให้ นางสาวผุสดี มะเทวิน และนางสาวนิตยา ตุ้ยลี้ ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานสาขาจังหวัด ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการสะสางข้อมูลทะเบียนหนี้เกษตรกร เพื่อนำไปจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ในเขตพื้นที่ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

กฟก. จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่จัดเวทีประชาสัมพันธ์ตามโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ณ ศาลาอเนกประสงค์ บ้านป่ากุ๊ก หมู่ที่ 7 ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย

วันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) มอบหมายให้ นางสาวศริญญา สุริยนต์ พนักงานทั่วไป และนางสาวจุฑาทิพย์ ปินตาสาร ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานสาขาจังหวัด ลงพื้นที่จัดเวทีประชาสัมพันธ์ตามโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่สาขาจังหวัด ร่วมกับองค์กรเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดเชียงราย เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูเเละพัฒนาเกษตรกร /การขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร / การขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกร /และการเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 22 มีนาคม 2565 วันที่ 14 มีนาคม 2566 และวันที่ 8 เมษายน 2568 ณ ศาลาอเนกประสงค์ บ้านป่ากุ๊ก หมู่ที่ 7 ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย

กฟก. จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้กับประชาชน” จังหวัดเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ โรงเรียนปอวิทยา บ้านปอกลาง หมู่ที่ 5 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

วันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) มอบหมายให้ นางสุกัญญา แสงหล้า พนักงานอาวุโส นางสาวณษิดา ชุ่มมงคล ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานสาขาจังหวัดเชียงราย นายณัฐภูมิ เข็มขาว ผู้ปฏิบัติงานกลุ่มงานบริการ เข้าร่วมกิจกรรมโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้กับประชาชน” จังหวัดเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน และมีนายวราวุธ อุสาใจ (ผู้แทนองค์กรเกษตรกร) อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ณ โรงเรียนปอวิทยา บ้านปอกลาง หมู่ที่ 5 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ได้ร่วมจัดนิทรรศการให้บริการแก่เกษตรกร ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เช่น การให้คำปรึกษาในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ด้านการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรและโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก.ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 22 มีนาคม 2565 วันที่ 14 มีนาคม 2566 และวันที่ 11 ธันวาคม 2567

กฟก. จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับองค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรฟื้นฟูร่วมใจพัฒนาบ้านร่มโพธิ์ทอง ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ อาคารอเนกประสงค์ บ้านร่มโพธิ์ทอง หมู่ที่ 22 ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) มอบหมายให้ นางสุกัญญา แสงหล้า พนักงานอาวุโส ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับองค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรฟื้นฟูร่วมใจพัฒนาบ้านร่มโพธิ์ทอง เพื่อพัฒนาแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ อาคารอเนกประสงค์ บ้านร่มโพธิ์ทอง หมู่ที่ 22 ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

โดยมีคณะทำงานเพื่อสนับสนุนกระบวนการพัฒนาและประเมินแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ขององค์กรเกษตรกร ตามขั้นตอนที่ 2 ของคู่มือการสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ร่วมด้วย ดังนี้

คณะทำงานชุดที่ 1 ประกอบด้วย 1. นายคมสัน ดวงแก้ว (ผู้แทนองค์กรเกษตรกร) อนุกรรมการ 2. นายประเสริฐ พุทธรางกูร (ผู้แทนองค์กรเกษตรกร) อนุกรรมการ และ 3. นายวิชัย เขื่อนเชียงสา (ผู้แทนภาคเอกชน) อนุกรรมการ

คณะทำงานชุดที่ 2 ประกอบด้วย 1. นางดวงเดือน กลมาศ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ (ผู้แทนสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ผู้แทนภาคราชการ) อนุกรรมการ 2. นายชวลิต คำปาวีระ (ผู้แทนองค์กรเกษตรกร) อนุกรรมการ

ทั้งนี้องค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรฟื้นฟูร่วมใจพัฒนาบ้านร่มโพธิ์ทอง ยื่นเสนอแผนและโครงการฯ ทอตุงล้านนา ภูมิปัญญาชาวเหนือ จำนวนเงิน 393,300 บาท มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 10 ราย

กฟก. เชียงราย ลงพื้นที่จัดเวทีประชาสัมพันธ์ตามโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านขันหอม หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น. นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) มอบหมายให้ นางสาวศริญญา สุริยนต์ พนักงานทั่วไป นางสาวณษิดา ชุ่มมงคล ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานสาขาจังหวัด และนายณัฐภูมิ เข็มขาว ผู้ปฏิบัติงานกลุ่มงานบริการ ลงพื้นที่จัดเวทีประชาสัมพันธ์ตามโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่สาขาจังหวัด ร่วมกับองค์กรเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดเชียงราย เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูเเละพัฒนาเกษตรกร /การขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร / การขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกร /และการเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 22 มีนาคม 2565 วันที่ 14 มีนาคม 2566 และวันที่ 8 เมษายน 2568 ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านขันหอม หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

กฟก. จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการสะสางข้อมูลทะเบียนหนี้เกษตรกรในเขตพื้นที่ อำเภอแม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

วันที่ 21 เมษายน 2568 นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) มอบหมายให้ นางสาวผุสดี มะเทวิน นางสาวจุฑาทิพย์ ปินตาสาร และนางสาวนิตยา ตุ้ยลี้ ผู้ปฏิบัติงานสำนักงานสาขาจังหวัด ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการสะสางข้อมูลทะเบียนหนี้เกษตรกร เพื่อนำไปจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ในเขตพื้นที่ อำเภอแม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

พนักงานและลูกจ้างสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) “สูมาคารวะ ดำหัว ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง 2568” นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.)

วันที่ 17 เมษายน 2568 เวลา 10.29 น. พนักงานและลูกจ้างสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) “สูมาคารวะ ดำหัว ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง 2568” นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ไทย 2568 ณ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ชั้น 1

กฟก.จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับองค์กรเกษตรกรเพื่อติดตามและประเมินผลโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โครงการเลี้ยงโค

กฟก.จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับองค์กรเกษตรกรเพื่อติดตามและประเมินผลโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โครงการเลี้ยงโค

วันที่ 11 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับองค์กรเกษตรกรเพื่อติดตามและประเมินผลโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ขององค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรบ้านเด่นพัฒนา หมู่ 5 โดยมี นายประเสริฐ พุทธรางกูร อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย และนายนเรศ รัศมีจันทร์ ผู้แทนเกษตรกรภาคเหนือ ประธานเครือข่ายโคเนื้อล้านนา ร่วมด้วย ณ ที่ตั้งโรงเรือนของสมาชิก ที่เข้าร่วมโครงการ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

นายนิยม กล่าวว่า องค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรบ้านเด่นพัฒนา หมู่ 5 ได้รับอนุมัติงบประมาณโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร งบกู้ยืม ประจำปี พ.ศ. 2567 (ปลอดดอกเบี้ย) โครงการเลี้ยงโค จำนวนเงิน 1,316,620 บาท มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 10 คน

“ทั้งนี้เกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ในการเสนอแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้ที่ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ชั้น 1 โทรศัพท์ 053-150156 ในวันและเวลาราชการ”นายนิยม กล่าว

กฟก.จังหวัดเชียงราย แจ้งเกษตรกรขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกร เพื่อใช้สิทธิการช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรในระบบ

วันที่ 8 เมษายน 2568 นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ขอเชิญชวนเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดเชียงราย ขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกร เพื่อใช้สิทธิการช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรในระบบ ตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 โดยการขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกร เกษตรกรที่มีสิทธิยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหนี้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 1.เป็นเกษตรกรตามระเบียบว่าด้วยเกษตรกร 2.เป็นหนี้อันเนื่องมาจากการประกอบเกษตรกรรมของเกษตรกรตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 3.เป็นหนี้ในระบบตามมาตาร 37/1 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

การขึ้นทะเบียนหนี้ของเกษตรกร เกษตรกรที่จะมีสิทธิได้รับการพิจารณาแก้ไขปัญหาหนี้ ต้องเป็นสมาชิกองค์กรเกษตรกร ซึ่งมีหนี้อันเนื่องมาจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม มาตรา 37/1 โดยหนี้ของเกษตรกรต้องเป็นหนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 1.เป็นหนี้เกิดจากโครงการส่งเสริมของรัฐและประสบความล้มเหลวอันไม่ใช่ความผิดของเกษตรกร 2.หนี้ที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ประเภท ธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตร ตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และนิติบุคคลตามที่คณะกรรมการกำหนด 3.หนี้ที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันเกษตรกร ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ หนี้ดังกล่าวต้องเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่นายทะเบียนได้รับขึ้นทะเบียนหนี้ เว้นแต่กรณีหนี้ที่เกิดหลังขึ้นทะเบียนหนี้ โดยการปรับโครงการหนี้จากสัญญาเดิมที่ขึ้นทะเบียนหนี้ไว้

เอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนหนี้ การขอขึ้นทะเบียนหนี้ ให้เกษตรกรยื่นผ่านองค์กรเกษตรกรที่เกษตรกรเป็นสมาชิก โดยใช้เอกสารประกอบคำขอ ดังนี้ 1.คำขอขึ้นทะเบียนหนี้ ตามแบบที่สำนักงานกำหนด 2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเกษตรกร 3.หลักฐานแห่งหนี้ เช่น สัญญากู้ยืม สัญญาจำนอง หรือสมุดบัญชีเงินกู้
ในกรณีสัญญากู้ยืมไม่ระบุวัตถุประสงค์การกู้เพื่อเกษตรกรรม หรือไม่ระบุชัดเจน ให้ใช้เอกสารที่ระบุวัตถุประสงค์ในการกู้ยืมเงินเพื่อเกษตรกรรมหรือหนังสือรับรองวัตถุประสงค์เพื่อการกู้ยืมเงินเพื่อเกษตรกรรมจากเจ้าหนี้มาอ้างอิงได้ สำหรับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคมหรือสหกรณ์ประมง ไม่ต้องใช้เอกสารอ้างอิง (1) กรณีเป็นหนี้ที่มีทรัพย์สินมาเป็นหลักประกันให้แนบสำเนาเอกสารสิทธิ์ ในทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันหนังสือแสดงความยินยอมให้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันให้แก่กองทุน (2) กรณีบุคคลค้ำประกัน ให้ระบุจำนวนผู้ค้ำประกัน พร้อมทั้งชื่อ ชื่อสกุล และที่อยู่ (ถ้ามี) มาด้วย (3) กรณีหนี้ส่วนที่เหลือจากการบังคับคดีเสร็จสิ้นหรือหลังจากการโอนทรัพย์ เพื่อชำระหนี้แก่สถาบันเจ้าหนี้แล้วให้นำมาขึ้นทะเบียนได้

ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ชั้น 1 โทรศัพท์ 053-150156 ในวันและเวลาราชการ

กฟก.จังหวัดเชียงราย เชิญชวนเกษตรกรรวมกลุ่มขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร เข้ารับสิทธิการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร

วันที่ 4 เมษายน 2568 นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ขอเชิญชวนเกษตรกรจังหวัดเชียงราย รวมกลุ่มขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร เพื่อเข้ารับสิทธิการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 โดยคุณสมบัติของเกษตรกร เกษตรกร หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักโดยมีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้ทั้งหมด (รวมถึงสิทธิหรือประโยชน์ที่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้) และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้ 1. ไม่เป็นข้าราชการการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2. ไม่เป็นข้าราชการพนักงานองค์กรของรัฐซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 3. ไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท

คุณสมบัติขององค์กรเกษตรกร 1.กลุ่มหรือคณะของเกษตรกรที่ไม่เป็นนิติบุคคลในจังหวัดเดียวกันมารวมกันไม่น้อยกว่า 50 คน โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบอาชีพร่วมกัน 2.นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมร่วมกัน

การยื่นคำขอขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร “องค์กรเกษตรกรเป็นผู้รับรองสมาชิกและเป็นผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน” 1. ให้ยื่นคำขอต่อสำนักงานสาขาตามแบบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด 2. ให้คณะกรรมการหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากกลุ่มหรือคณะของเกษตรกรไม่น้อยกว่า 3 คน เป็นผู้ยื่นคำขอหรือให้ผู้แทนหรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายมาเป็นผู้ยื่นคำขอในกรณีเป็นองค์กรนิติบุคคล

เอกสารในการยื่นคำขอ 1. กรณีไม่เป็นนิติบุคคล ประกอบด้วยสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ เอกสารแสดงประวัติโดยย่อของกลุ่ม ซึ่งแสดงถึงที่ตั้งที่ทำการของกลุ่ม ระเบียบหรือข้อบังคับที่ต้องระบุวัตถุประสงค์ของกลุ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติของสมาชิก วิธีรับสมาชิก การขาดจากสมาชิกภาพ ตลอดจนสิทธิและหน้าที่ของสมาชิก โดยเกษตรกร รายนั้นๆ ต้องมีคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรตามกฎหมายและระเบียบของกองทุนฯ ด้วย รายชื่อกรรมการและสมาชิกที่ลงลายมือชื่อ แสดงความประสงค์ของขึ้นทะเบียน พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านที่แสดงภูมิลำเนาในปัจจุบันที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยกรรมการองค์กรเกษตรกรจะต้องมีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อสมาชิกของกลุ่มหรือคณะของเกษตรกรด้วย เอกสารแสดงกิจกรรมที่ทำร่วมกันที่ผ่านมาของกลุ่ม และรายงานการประชุมและหนังสือมอบอำนาจของกลุ่มที่ได้มีมติให้มีการขึ้นทะเบียน

  1. กรณีเป็นนิติบุคคล ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แทนหรือกรรมการซึ่งได้รับมอบหมายสำเนาเอกสารแสดงฐานะนิติบุคคลที่ออกโดยองค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้อง สำเนารายงานการประชุม
    ที่ได้มีมติให้ขึ้นทะเบียนของนิติบุคคล สำเนารายชื่อกรรมการและสมาชิกที่ลงลายมือชื่อแสดงความประสงค์
    ขอขึ้นทะเบียนพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน และแสดงสำเนาทะเบียนบ้านที่แสดงภูมิลำเนาในปัจจุบันที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน สำเนางบดุลของปีสุดท้ายก่อนยื่นคำขอ

สิทธิประโยชน์ขององค์กรเกษตรกร 1.องค์กรเกษตรกรมีสิทธิขอเข้ารับการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรโดยให้ทำแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรยื่นต่อสำนักงานหรือสำนักงานสาขาที่เป็นที่ตั้งขององค์กรเกษตรกร 2.สมาชิกขององค์กรเกษตรกรที่เป็นหนี้ในระบบและประสงค์ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนสามารถยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหนี้ ต่อสำนักงานสาขาจังหวัดผ่านองค์กรเกษตรกรที่ต้นสังกัด

ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ชั้น 1 โทรศัพท์ 053-150156 ในวันและเวลาราชการ